วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ประเทศไทยกับรายงานความสุขโลก

สวัสดีพี่น้องชาวสาธารณสุขทุกท่านครับ
ทุกครั้งที่ตรวจเยี่ยมพื้นที่ ผมจะรู้สึกเสมอในความโชคดีของคนไทยที่มี ระบบสุขภาพเข้มแข็ง เป็นที่ชื่นชมของนานาชาติ เรามีหลักประกันสุขภาพป้องกันประชาชนล้มละลาย มีบุคลากรและจิตอาสาดูแลทุกข์สุข มีเทคโนโลยีการแพทย์ที่ไม่เป็นรองประเทศใด เราพยายามมองหาจุดปรับปรุงและเติมเต็มตลอดเวลา เพื่อเพิ่มคุณภาพและความครอบคลุมของกำลังคน ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือเครื่องใช้ และข่าวสารข้อมูล
หลายท่านคงเคยได้ยิน รายงานความสุขโลก ที่องค์การสหประชาชาติสนับสนุนนับแต่ปี 2012 นะครับ ท่านคงไม่แปลกใจที่เดนมาร์กและสวิตเซอร์แลนด์ติดลำดับต้นๆ แต่ท่านทราบหรือไม่ว่าในรายงานล่าสุดปี 2015 ที่ประมวลข้อมูลปี 2012-2014 เม็กซิโกซึ่งอยู่ลำดับ 14 นำอเมริกา (15) ส่วนบราซิลในลำดับ 16 ก็นำลักเซมเบิร์ก (17) ขณะที่เวเนซูเอลาในลำดับ 23 ก็นำสิงคโปร์ (24)

ไทยอยู่ลำดับ 34 ของโลก และลำดับ 2 ของเอเชีย นำไต้หวัน (38) ญี่ปุ่น (46) เกาหลีใต้ (47)

เห็นได้ชัดว่า เศรษฐกิจอย่างเดียวไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาดครับ ผู้วิจัยพบว่านอกจากรายได้แล้ว ความพึงใจในชีวิตยังอธิบายด้วย จำนวนปีสุขภาพดี การมีคนช่วยเหลือยามต้องการ การมีอิสระที่จะเลือก และการปลอดคอร์รัปชัน
สังคม สิ่งแวดล้อม ชุมชน และธรรมาภิบาล สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลยครับ
เศรษฐกิจและสังคมจึงต้องพัฒนาควบคู่กันไป แต่แม้ในยามภัยพิบัติหรือวิกฤติเศรษฐกิจ ความทุกข์และความเหลื่อมล้ำในความรู้สึกนึกคิดก็ยังบรรเทาเบาบางได้ ตราบใดที่สังคมเข้มแข็ง ทุกคนมีความเอื้ออาทร มีเพื่อนบ้านดี มีอาชีพการงานมั่นคง มีที่ดินทำกิน รู้สึกปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน สิ่งแวดล้อม และมีความเสมอภาคทางเพศ การศึกษา สุขภาพ

ทุกภาคส่วนและองค์กรมีส่วนช่วยคนละไม้คนละมือในการทำให้สังคมน่าอยู่ได้ครับ สำหรับภาคส่วนสุขภาพ เราก็หวังว่าทีมหมอครอบครัว ซึ่งทำงานเชิงรุกไปทุกหย่อมหญ้า จะเป็นตัวดึงศักยภาพชุมชนและประชาสังคม มาร่วมเรียนรู้ สร้างสรรค์ ตัดสินใจ ประกอบสัมมากิจ เพื่อให้คนไทย คนไร้รัฐ แรงงานต่างด้าว ผู้สูงอายุติดบ้านติดเตียง ผู้พิการ ชาวเกาะที่อยู่ห่างไกล ไม่ถูกทอดทิ้ง มีทักษะดูแลตัวเอง ได้รับการรักษาทันท่วงทีจนแคล้วคลาดจากทุพพลภาพ ได้เสียชีวิตอย่างสงบ

เพียงการแก้ไขปัญหาสุขภาพ ซึ่งต้องอาศัยการจับมือจากทุกอาชีพ ก็ช่วยลดความเหลื่อมล้ำได้อย่างเป็นรูปธรรมแล้ว เมื่อใดช่องว่างความไม่เท่าเทียมนี้หดสั้นจนทุกคนสัมผัสได้ ผมก็เชื่อว่า ประเทศไทยจะขยับขึ้นสู่ลำดับต้นๆ ของรายงานความสุขโลกอย่างแน่นอน
ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการทำงานครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น